เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ร่วมสร้างกฎหมายกับไอลอว์
Blognone Bookmark and Share

19 กันยายน 2552

ฟังวิธีแก้ปัญหาการไม่หม่ำข้าว-ผักในเด็กไทย!

ฟังวิธีแก้ปัญหาการไม่หม่ำข้าว-ผักในเด็กไทย!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กันยายน 2552 12:56 น.
 
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       ยุคสมัยนี้ ปัญหาโลกแตกที่สร้างความหนักใจแก่พ่อแม่ยุคใหม่ เห็นทีจะหนีไม่พ้น ปัญหาเด็กไทยกินยาก และไม่กินผัก โดยเฉพาะในส่วนหลัง ผลสำรวจพบว่ามีเพียง 41.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เด็กกินผักทุกวัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้กลายเป็นความกังวลใจแก่พ่อแม่ที่ต่างกลัวว่า ลูกน้อยจะไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
       
       เรื่องนี้ "นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี" กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวว่า ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต เด็กจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่ปัญหาที่พบคือ เด็กในช่วงวัยเด็กตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป มักไม่ชอบกินข้าว หรือกินผัก ทั้งๆ ที่เป็นแหล่งของวิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
       
       ไม่ว่าจะเป็น แครอท ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น มะเขือเทศ มีวิตามินซี ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ผักขม ให้วิตามินเค ช่วยสร้างสารที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด และแคลเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก และฟัน
       
       อย่าง ไรก็ดี เมื่อลูกเกิดอาการเบื่ออาหาร คุณหมอแนะนำว่า คุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนเมนูให้ตรงกับความชอบของลูก สำหรับเด็กๆ ที่ไม่ชอบทานผัก อาจจะต้องทำเมนูผักชุบแป้งทอด แล้วจิ้มกับซอสมะเขือเทศ หรือซอสรสหวาน เพื่อให้รสชาติของผักเป็นที่ถูกใจคุณลูกมากขึ้น
       

       ขณะเดียวกันก็ต้องคอยปลูกฝังให้เด็กเห็นความสำคัญของการกินผัก โดยโยงกับตัวการ์ตูนที่เด็กชื่นชอบ แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้ผล คุณแม่อาจจะต้องหาอาหารเสริม หรือวิตามินเสริมให้ลูกกิน เพื่อให้เด็กได้รับวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย และไฟเบอร์ช่วยป้องกันอาการท้องผูกที่อาจเกิดขึ้นได้
       
       ด้านปัญหา “พฤติกรรมกินยากของเด็กไทย” โดยเฉพาะเด็กเล็ก ที่ยังคงเป็นปัญหาสำหรับคุณแม่ และคุณพ่อไม่ใช่น้อย สอดรับกับงานวิจัยของสวนดุสิตโพลเรื่อง “พฤติกรรมการกินยากในเด็กเล็ก” ที่ทำการสำรวจกลุ่มเป้าหมายคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 2-6 ขวบ จำนวน 1,148 คน ในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยใช้แบบสอบถามประกอบการสัมภาษณ์ จำนวน 11 ประเด็น ในเดือน กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา ผลสรุปออกมาว่า

“รศ.นพ.สังคม จงพิพัฒน์วณิชย์”
       คุณแม่ 85.54 % ป้อนอาหารให้กับลูกด้วยตัวเอง และมีคุณแม่ถึง 61.67 % มีการทะเลาะกับลูกเรื่องการกินข้าวของลูก สำหรับปัญหาที่คุณแม่กังวลมากที่สุด คือ ลูกทานข้าวช้ากว่าจะหมดจานและอมข้าว ซึ่งมี 31.76 % รองลงมาคือ ลูกไม่ชอบกินผัก และผลไม้ 26.53 %
       
       โดยพบสาเหตุหลักว่า อาหารไม่ถูกปากลูก รวมถึงมีสิ่งยั่วยุ เร้าใจอื่นๆ เช่น เล่นกับเพื่อน หรือดูทีวี และยังไม่หิว ด้านวิธีการของคุณแม่ส่วนใหญ่ที่นิยมทำให้ลูกยอมกินข้าว คือ การอ้อนวอน และติดสินบน ซึ่งมีถึง 35 % รองลงมาคือบ่น ดุ 17.88 %
       
       ทั้งนี้ผลกระทบที่คุณแม่คิดว่า ได้รับมากที่สุดจากการที่ลูกกินยาก คือ คุณแม่ 30.58 % อารมณ์เสีย หงุดหงิด รองลงมาคือ 29.27 % มีผลกระทบต่อพัฒนาการลูก รวมไปถึง 22.34 % บอกว่าสิ้นเปลืองเวลา
       
       จากผลวิจัยข้างต้น เป็นการเก็บข้อมูลระยะสั้น แต่สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมการกินยากของเด็กเล็ก ยังคงเป็นปัญหาที่คุณแม่ส่วนใหญ่แก้ไม่ตก ประเด็นนี้ “รศ.นพ.สังคม จงพิพัฒน์วณิชย์” หัวหน้าหน่วยโภชนาการกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยแนะนำกับทีมงาน Life and Family ว่า
       
       คุณ แม่ต้องเข้าใจพัฒนาการของลูกก่อน เพราะลูกวัย 2-6 ขวบ จะกินอาหารได้น้อยลง ซึ่งน้อยว่าตอนอายุ 1 ขวบ ดังนั้นไม่ควรกดดัน หรือบังคับให้ลูกกินอาหาร นอกจากนี้ขณะกินข้าว ไม่ควรให้ลูกกินอยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือกินไปเล่นไป เพราะเด็กในวัยนี้ เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น จะทำให้เด็กหนีห่างจากการกินข้าว เพื่อไปดู หรือเล่นกับสิ่งเร้าเหล่านั้นได้
       

       สิ่ง ที่คุณแม่ หรือคุณพ่อควรระวัง อ้างจากผลงานวิจัย คุณหมอบอกว่า การติดสินบนเพื่อให้ลูกกินข้าว อาจส่งผลเสียต่อเด็กในตอนโตได้ ทางที่ดี ไม่ควรติดสินบนลูก เช่น กินหมดจะซื้อขนมให้ แต่ควรเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลทางใจกับลูกแทน เช่น ปรบมือให้เป็นรางวัล นั่นจะทำให้เด็กไม่เคยตัว และต่อรองเวลากินข้าว

http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000103259


--
Web link
http://www.cloudbookclub.com/about.htm
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://sundara21.blogspot.com/
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com/v1/
http://cloudbookclub.blogspot.com
http://blogok09.blogspot.com
http://thairaptorgroup.com/TRG/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2049
http://www.ias.chula.ac.th/Thai/modules.php?name=NuCalendar

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม