เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ร่วมสร้างกฎหมายกับไอลอว์
Blognone Bookmark and Share

04 สิงหาคม 2552

ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติกับไข้หวัดหมู / ทางเสือผ่าน

 ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติกับไข้หวัดหมู / ทางเสือผ่าน

แสงไทย เค้าภูไทย5/8/2552

 

ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติกับไข้หวัดหมู

 

วันนี้กระแสฟ้าทลายโจรกำลังมาแรงในฐานะยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ผล  แต่ก็มีอีกกระแสหนึ่งที่แรงพอๆกัน คือประกาศกระทรวงการคลังยกเลิกเบิกค่ายานอกบัญชียาหลัก ที่ทำให้กลุ่มเภสัชสมุนไพรเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

เพราะยาสมุนไพรที่เคยให้เบิกค่ายาในหลักประกันสุขภาพได้นั้น มูลค่าจะหายไปกว่า 30% ของมูลค่าปัจจุบัน

จาก 3,600  ล้านบาทต่อปี  จะเหลือราวๆ  2,000  ล้านบาทต้นๆ

ไม่แต่เท่านั้น ยังทำให้ยาตำรับที่ใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ที่กำลังฮิตคือไข้หวัดใหญ่ 2009  หรือไข้หวัดหมูและโรคร้ายแรงอื่นๆพลอยถูกจำกัดขอบเขตการรักษาไปด้วย

นายวรพงษ์ เกรียงสินยส ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย แกนนำของเครือข่ายใช้ยาสมุนไพรแห่งประเทศไทยจึงได้ทำหนังสือถึง  คณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภาและคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า

เป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องและมีความไม่ชอบมาพากล...

คำว่า ไม่ชอบมาพากลนั้น คุณวรพงษ์  ขยายความว่าการห้ามเบิกจ่ายยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติจะทำให้ผู้ป่วยต้องหันกลับมาใช้ยาแผนปัจจุบันแทน ซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อบริษัทยาแผนปัจจุบัน ซ้ำยังเป็นการปิดกั้นการวิจัยยาสมุนไพรด้วย

เงินเบิกจ่ายยาของโรงพยาบาลนั้น ส่วนใหญ่มี 3 ระบบรักษาพยาบาล คือหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคมและระบบข้าราชการ

บัญชีเบิกจ่ายทั้ง 3 บัญชีนี้ ปีหนึ่งๆมีมูลค่ากว่า 60,000  ล้านบาท ขณะที่ตลาดยาในเมืองไทยทั้งหมดรวมกันมูลค่า 120,000  ล้านบาท

ตัวเลขเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทในงบประมาณรายจ่ายด้านสุขภาพของกระทรวงการคลังนี้  หากนำเอาผลงานวิจัยของสถาบันทีดีอาร์ไอ ที่ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร  ประธานสถาบันที่มีผลสรุปว่าทุกโครงการของรัฐบาลมีค่าคอมมิชชั่น 20%, มาทาบแล้ว  คงจะเป็นเงินก้อนโตไม่น้อย

ก้อนโตเสียจนเป็นพิษทำให้อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขคนหนึ่งต้องเข้าไปนอนคุกอยู่ในขณะนี้

ดร.นิพนธ์ ยังประเมินตัวเลขคอมมิชชั่นที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากเงินกู้ 800,000  ล้านบาทของรัฐบาลนี้ไว้ว่า จะตกราว 16,000  ล้านบาท

ก้อนโตขนาดนี้  ใครต่อใครในพรรคร่วมรัฐบาลจึงพากันจ้อง ขณะที่สังคมก็จับตามองรัฐบาลก็เลยเกร็ง  ไม่กล้าลงมือในโครงการอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน แม้บางโครงการจะเป็นโครงการเร่งรัดก็ตาม

อาการกลัวละเกร็งลามไปถึงโครงการในงบประมาณปกติ ทำให้มีเงินตกเบิกเป็นหมื่นๆล้าน

เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดออกมาว่า -4.4%  เงินตกเบิกไม่ออกมาหมุนเวียนก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วย

กระทรวงการคลังเคยบอกไว้ว่าถ้าเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องกันเกิน 6  เดือนเมื่อไหร่  ให้ถือว่าประเทศไทยเข้าสู่ภาวะ เงินฝืด

แต่ถึงวันนี้ ธนาคารกลางก็ยังไม่กล้าระบุให้เป็นภาวะเงินฝืด  เหตุเพราะคนไทยยังมีเงินซื้อข้าวกินได้อย่างไม่ขัดสนถึงขั้นขี่คอกันแย่งซื้อ

สำหรับยาในบัญชียาหลักแห่งชาตินั้น  ในด้านยาแผนปัจจุบันแล้ว  คงไม่มีใครเดือดร้อนเมื่อถูกห้ามเบิก

แต่ยาสมุนไพรนอกเหนือจาก 19   ชนิดที่อยู่ในบัญชียาหลักส่วนที่เคยเบิกกันได้นั้น ออกจะเดือดร้อน

เพราะคนไข้บางคนเคยใช้ได้ผลมาแล้ว ก็อยากจะใช้อีก  แต่หลังจากวันที่1 กรกฎาคม ศก.นี้มา  ต้องจ่ายเองแล้ว เบิกไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อเบิกไม่ได้  ก็ไม่รับยา  หันไปรับยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแทน ส่วนใหญ่ก็เป็นยาแผนปัจจุบันตามถนัดของโรงพยาบาล  เพราะโรงพยาบาลรัฐมักจะไม่มีแพทย์แผนไทยในส่วนของเวชกรรมโดยเฉพาะ

คำสั่งนี้จึงเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงยาแผนไทยและปิดกั้นงานวิจัยและพัฒนาทางด้านยาไทย ทั้งด้านสมุนไพรและยาตำรับ

สมุนไพรเดี่ยวนั้น แต่โบราณมา หมอไทยไม่นิยมใช้  เพราะมีผลข้างเคียงมาก ยาบางตัวใช้ไปแล้วเกิดอาการโรคดื้อยา หรือเป็นพิษ

ยอดรักสลักใจ เจอยาไทยพร้อมกัน 6 ขนาน ค่า liver function(LF) พุ่งพรวดเป็นหมื่นๆ จนต้องจากไปก่อนเวลาอันควรก็เพราะไม่ผ่านกระบวนการรักษาแผนไทยที่ถูกต้อง

มีรายงานผลการรักษาด้วยยาต้านไวรัสกับโรคไข้หวัดใหญ่หมูในสหรัฐเมื่อวานนี้ว่ามีทั้งด้านบวกและด้านลบ

ด้านบวกบอกว่า  ยาต้านไวรัสที่เรารู้จักกันดีในขณะนี้คือโอเซลทามีเวียร์นั้น นอกจากต้านไวรัส H1N1แล้วยังใช้กับอาการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นๆได้ด้วย

ตรงกับยาไทย 2 ตำรับ คือจันทน์ลีลากับยาห้ารากหรือเบญจโลกวิเชียร  ที่รักษาได้ทั้งไข้หวัดใหญ่ฤดูกาล(seasonal flu) มาจนถึงไข้หวัดธรรมดาที่เกิดจากเชื้อ rhino virus เช่นเดียวกันกับยาห้าราก ที่ใช้กับไข้ฤทธิ์ร้อนภายในทั้งปวงไปจนถึงเริมและงูสวัด

มีรายงานจากประสบการณ์รักษาเริมและงูสวัดว่ายาห้ารากสามารถลดระยะเวลาการรักษาอาการอันเกิดจากการติดเชื้อ HSV จาก 7 วันในรายที่รักษาด้วยยา Acyclovir ทั้งกินทั้งทา มาเหลือแค่ 3 วัน เท่านั้น โดยไม่ได้ใช้ยาทาควบ

หรือจากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์จากการรักษาด้วยยาห้ารากแจ้งมาให้ทราบถึงผลการรักษาไข้หวัดหมูด้วยตนเองหลังจากอ่านข้อเขียนของผมเมื่อ สัปดาห์ก่อน ว่าได้ผล  เช่นเดียวกับอีกหลายท่านที่แจ้งประสบการณ์การรักษาด้วยยาจันทน์ลีลา

ยาจันทน์ลีลานั้น รักษาไข้เจรียงและไข้ดอกสักได้ดีมาก

ชื่อไข้ฟังดูแล้วแสนจะโรแมนติค  แต่พิษของมันไม่เบา  ถ้าเทียบกับโรคปัจจุบันนี้ ก็คือไข้เปลี่ยนฤดูหรือไข้ประจำฤดู(seasonal fever)  โดยเฉพาะฤดูนี้ ดอกสักกำลังบานสะพรั่ง ไข้ตัวนี้ก็แพร่เชื้อสะพรั่งตามมา

ไข้หวัดใหญ่หมูนี้ก็เป็นไข้ตัวหนึ่งในกลุ่มอาการไข้ดอกสัก

ยาจันทน์ลีลาและยาห้ารากเป็นยาในบัญชียาหลักฯ สามารถเบิกได้ แต่ถ้าจะให้หายสนิท เมื่อเวลาไข้เริ่มสร่าง ให้ทานยาเบญจกูลเข้าไปปรับไฟธาตุเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เพราะยาสองตัวนี้รวมทั้งฟ้าทลายโจร  ลดไข้ดีมาก แต่ทานติดต่อกันนานๆจะทำให้มือเท้าชาได้ เพราะเกิดพยาธิสภาพ  เย็นพร่อง

หายาเบญจกูลทานไม่ได้  ใช้ขิงต้มน้ำดื่มแทนก็ได้  เพราะขิงเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่อยู่ในพิกัดเบญจกูล  ให้ความอบอุ่น ขับลมและยังช่วยแก้อาการคลื่นไส้อีกด้วย

ส่วนข่าวร้ายจากอเมริกาก็คือ พ.ญ.มาเรีย เทเรซ่า เซอร์กีร่า หัวหน้าสำนักงานองค์การสาธารณสุขแพนอเมริกัน เมืองลาจอลล่า แคลิฟอร์เนียเปิดเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ได้พบอาการดื้อยา  Tmiflu อันเป็นชื่อการค้าของสาร oseltamivir phosphase  เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว

อาการดื้อยานี้ถ้าเป็นในทางการแพทย์แผนไทยก็คือ ไข้กลับ   ซึ่งหมอไทยรักษาแบบองค์รวมด้วยยา  ตัดรากไข้ เช่นยามหานิล ขจัดพิษภายในให้หมดก่อนแล้วถ่ายรุ ขจัดพิษตกค้างในตับ จากนั้นจึงปรับธาตุฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ

ถอนรากถอนโคนชนิดไม่ให้กลับมาโฟน-อินกันได้อีก

นี่คือเคล็ดลับที่หมอยาไทยใช้รักษาชีวิตคนไทยมานับเป็นร้อยๆปีแล้ว

เป็นกระบวนการรักษาพยาบาลและกระบวนคิดที่ยังไม่มีสถาบันหลักรับรองจึงไม่อยู่ในข่ายเบิกค่ารักษาพยาบาลได้

http://www.siamrath.co.th/uifont/ArticleDetail.aspx?acid=3882


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.narit.or.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.momypedia.com
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://icann-ncuc.ning.com
http://www.webmaster.or.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม