เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ร่วมสร้างกฎหมายกับไอลอว์
Blognone Bookmark and Share

14 มิถุนายน 2552

ชงอัยการสูงสุดฟ้อง"วัฒนา-อริสมันต์"พวก 7 คน คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร กลางสัปดาห์นี้

ชงอัยการสูงสุดฟ้อง"วัฒนา-อริสมันต์"พวก 7 คน คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร กลางสัปดาห์นี้

คณะทำงานพิจารณาคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทรลงมติเสนออัยการสูงสุดฟ้อง"วัฒนา เมืองสุข-อริสมันต์ กับพวกรวม 7 คนข้อหาเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่เรียกสิบบนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ข้องใจแยกดำเนินคดี 13 เจ้าหน้าที่การเคหะฯทำให้สำนวนไม่สมบูรณ์

นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ว่า คณะทำงานอัยการได้พิจารณาสำนวนคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความเห็นสั่งฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นายพรพรหม วงศ์วิทัศน์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ส.ส.กทม.  นายอภิชาติ จันสกุลพร กรรมการผู้จัดการบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด  น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง  น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว และบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ  รวม  7 คน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเรียกรับเงินผู้ประกอบการเอกชนในโครงการดังกล่าว เสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมเสนอให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาอีกครั้งกลางสัปดาห์นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยความเห็นได้ แต่อย่างไรก็ตามหาก อสส.จะมีความเห็นตามที่ ป.ป.ช.มีความเห็นให้สั่งฟ้อง ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง  7  คนดังกล่าว อัยการก็จะยื่นฟ้องทั้งหมดเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป แต่หาก อสส.มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาบางคน ก็จะต้องไปปรึกษากับ ป.ป.ช. อีกครั้ง

 

นายวัยวุฒิ กล่าวว่า คดีนี้ ป.ป.ช. มีความสมควรสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดรวม  20 คน แต่ส่งสำนวนให้อัยการเพียง 7 คน ส่วนที่เหลืออีก  13  คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การเคหะแห่งชาติ นั้น  ป.ป.ช. แยกเป็นอีก  1 สำนวน และยังไม่ได้ส่งสำนวนให้อัยการ ซึ่งคณะทำงานได้ทำข้อสังเกตุไปยัง ป.ป.ช.ว่า เป็นเรื่องผิดปกตินักการเมืองจะกระทำผิดโดยไม่มีข้าราชการให้ความร่วมมือ โดยอัยการอยากให้ส่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองสำนวนเป็นคดีเดียวกัน เพื่อแสดงพยานหลักฐานนำสืบต่อศาลคนละที ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อรูปคดีได้
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก

ผู้ติดตาม