เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ร่วมสร้างกฎหมายกับไอลอว์
Blognone Bookmark and Share

21 มิถุนายน 2552

ที่ตั้งหนังสือ รักการอ่าน...เพื่อสุขภาพ

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4115  ประชาชาติธุรกิจ


ที่ตั้งหนังสือ รักการอ่าน...เพื่อสุขภาพ





เป็นสินค้าที่คิดโดยคนไทย ที่เริ่มจากความรัก...แต่ไม่ใช่ความรักในตัวสินค้า รักในธุรกิจ จนมุ่งมั่นทำอย่างจริงจัง แต่ว่าเป็นความรักลูกที่อยากจะช่วยให้ลูกได้นั่งอ่านหนังสือได้สบายขึ้น โดยปราศจากอาการปวดตา ปวดคอ ปวดหลัง ที่เกิดจากสาเหตุการนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือที่วางราบกับโต๊ะ คือที่มาของสินค้าตัวนี้...ที่ตั้งหนังสือเพื่อการรักการอ่าน

ทรงกฤษณ ศรีสุขวัฒนา อาชีพหลักคือทนายความ อาชีพเสริมคือผู้ประดิษฐ์ และเจ้าของสิทธิบัตร ที่ตั้งอ่านหนังสือ รักการอ่าน บอกเล่าถึงที่มาของสินค้าตัวนี้ว่า เกิดจากลูกสาวของเขาเองตอนช่วงเรียนอนุบาล พอนั่งอ่านหนังสือมากๆ ก็มาบ่นว่า ปวดคอ ปวดตา ด้วยความรักลูกจึงประดิษฐ์ ที่วางหนังสือที่ทำจากไม้ให้ลูกสาวได้ใช้

"ซึ่งตอนนั้นไม่ได้คิดที่จะทำขาย แต่อยากทำให้ลูกใช้ แต่บังเอิญว่าตัวที่ทำจากไม้หล่นและหัก พอต้องทำใหม่ จึงอยากทำให้ดีขึ้นกว่าตัวเดิม ซึ่งวัสดุที่น่าจะดีกว่าไม้ ก็คือพลาสติก แต่เนื่องจากพลาสติกนั้นทำชิ้นเดียวไม่ได้ ก็ไปปรึกษาเพื่อนๆ ว่า ถ้าจะทำขายด้วยน่าสนใจหรือเปล่า ก็มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ไปติดต่อบริษัทไพโอเนียร์ฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากพลาสติกรายใหญ่ และก็ได้บริษัทนี้แหละที่ช่วยพัฒนาปรับแก้แบบ จนได้สินค้าที่ตั้งการอ่าน ออกมาขายอย่างไม่เป็นทางการ"

สาเหตุที่กล่าวว่า ที่ตั้งรักการอ่านมีการขายอย่างไม่เป็นทางการ ก็เนื่องจากเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง โดยวิธีการขายที่ใช้เวลานี้ก็คือ ลูกค้าจะรู้จักตัวสินค้าแบบปากต่อปาก และถ้าอยากได้ไว้ใช้ก็มี 2 วิธี คือไปซื้อด้วยตัวเองที่บ้าน กับ โทร.สั่งซื้อและจัดส่งทางไปรษณีย์

ถ้ามาซื้อที่บ้านราคา 350 บาท ถ้าให้ส่งทางไปรษณีย์บวกค่าส่ง 50 บาท รวมเป็น 400 บาท

ทรงกฤษณกล่าวว่า ที่ตั้งอ่านหนังสือเขาไม่ใช่ต้นตำรับที่คิดขึ้นเป็นเจ้าแรก เพราะมีสินค้าที่มีการใช้งานลักษณะเดียวกันใน ต่างประเทศวางขายอยู่ก่อนแล้ว แต่จุดที่ แตกต่างคือลักษณะของสินค้าที่ผลิตโดยใช้การเคลื่อนที่เป็นวงกลมนั้น สินค้าของเขาคือเจ้าแรกที่คิด และในประเทศไทยมีการจด สิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการจดเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบ

"ที่ตั้งอ่านหนังสือเจ้าอื่น เวลาปรับระดับจะใช้วิธีการขยับขาเดินหน้าถอยหลัง ซึ่งต้องใช้พื้นที่ในการขยับขา แต่สินค้าของทรงกฤษณจะพิเศษตรงที่ไม่ต้องปรับฐานเดินหน้าถอยหลัง ดังนั้นพื้นที่การใช้งานจะไม่เปลืองพื้นที่เพราะใช้การออกแบบการเคลื่อนที่เป็นวงกลมที่สามารถปรับระดับความลาดชันของที่ตั้งอ่านหนังสือให้อยู่ในแนวตั้งได้ 10 ระดับ ที่ช่วยให้เมื่อนั่งอ่านหนังสือแล้วจะสะดวกสบายขึ้น อ่านหนังสือง่าย สบายตา ไม่ปวดตา ไม่ปวดคอในเวลาอ่านหนังสืออีกเลย"

ทรงกฤษณกล่าวต่อว่า ในเรื่องการขยายตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น ขายได้มากขึ้น ไม่ได้มีแนวคิดที่จะทำอย่างจริงจัง เนื่องจากว่าขาดความรู้ในด้านนี้ และสาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือ เกรงว่าถ้าสินค้าตัวนี้เข้าสู่ระบบธุรกิจอย่างจริงจัง ราคาที่ตั้งขายอาจจะสูงกว่านี้

"ความคิดเห็นส่วนตัวผมมองว่า สำหรับสินค้าที่เป็นคุณราคา 350 บาท คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ทุกระดับ ไม่ว่าชนชั้นกลาง ชั้นบน สามารถซื้อให้ลูกใช้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของผมที่ต้องการอย่างนั้น แต่ถ้าสินค้าตัวนี้เข้าห้าง สมมติถ้าห้างรับ ห้างก็ต้องคิดจีดีพีอย่างน้อย 30-40% ราคาขายจะไม่ใช่ 350 บาท ซึ่งไม่ใช่ เป้าหมายของผม เพราะผมอยากให้สินค้าดี มีคุณประโยชน์นั้น คนทุกระดับไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ทุกเพศทุกวัยที่รักการอ่านหนังสือ สามารถ ซื้อใช้ได้อย่างสบาย ในราคาที่ไม่แพง"

ถามถึงเรื่องการคุ้มทุน ทรงกฤษณกล่าวปนเสียงหัวเราะว่า อย่างที่บอกว่า ถ้าคิดเรื่องธุรกิจนำหน้า สินค้าตัวนี้ไม่เกิดแน่ เพราะเริ่มตั้งแต่กระบวนการพัฒนาออกแบบร่วมกับทางบริษัทไพโอเนียร์ฯ ก็ช่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่พอได้สินค้าต้นแบบออกมา พอจะผลิตออกมาเป็นชิ้นงานจริงๆ นั้น เฉพาะค่าโมที่มีส่วนประกอบถึง 8 ชิ้นส่วนนั้นปาเข้าไป 500,000 บาท ยังไม่รวมค่าผลิตเมื่อเทียบกับลอตแรกที่ผลิตออกมาเพียง 1,200 ชิ้น ขายชิ้นละ 350 บาท ก็ไม่คุ้มค่าในเชิงธุรกิจแล้ว

แต่ต้นไอเดียสินค้าที่ตั้งหนังสือรักการอ่าน ก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้าผลิตและขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งสำหรับสินค้าที่วางขายอยู่ในปัจจุบันคงมีเพียงสินค้าไม่กี่ชนิดที่ลูกค้ายินดีที่จะเดินทางไปซื้อถึงบ้าน และหนึ่งในสินค้าไม่กี่ชนิดนั้นก็รวมที่ ตั้งหนังสือรักการอ่าน เพื่อสุขภาพอยู่ด้วย

หน้า 47
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก

ผู้ติดตาม